ต้นกำเนิดการดูดวงจีน

 

ดูดวงแบบจีน

ส่วนในด้านโหราศาสตร์เกี่ยวกับการดูดวง คิดค้นฤดูกาลต่างๆ ของจีน มีเริ่มตั้งแต่ 5 พันปีก่อนสมัยหวังตี้ อันเป็นปฐมราชาผู้ครองแผ่นดินจีน ได้ติดตามดูดวงดาวบนท้องฟ้า พร้อมทั้งสังเกตุฤดูกาล การเปลี่ยนแปลงบนพื้นดิน จนคิดค้นระบบ ‘หลิวซื่อเจี๋ยจือ’ ฤดูกาล อันเป็นต้นแบบปฏิทินจีนปัจจุบัน

ต่อมาประมาณ 600 ปีก่อนพุทธศักราช โจวเหวินหวาง พ่อของปฐมกษัตริย์ ราชวงศ์โจว ได้ถูกกษัตริย์ราชวงศ์ ซาง นามโจ้วหวาง จับกุมคุมขัง  ระหว่างอยู่ในคุก โจวหวินหวาง ได้คิดค้นเรียนรู้ตำรา ‘หลูซู่’ จนเขียนเป็นตำรา’โฮ่วเทียนปาขั้ว’ และตำรา’อี้จิง’ ขึ้นมา และได้ใช้วิธีการในตำราอี้จิง มาช่วยให้ตนเองพ้นภัยจากที่คุมขังได้ ขณะเดียวกันในช่วงเวลานี้ ศาสตร์แห่งการพยากรณ์ดวงชะตาได้แพร่หลายแล้ว โดยใช้ ‘หลิวซือเจี๋ยจื่อ’ ซึ่งเป็นปฏิทินจีน มาเป็นตัวพยากรณ์ดวงชะตาขั้นพื้นฐาน ของคนจีนในช่วงสมัยนั้น แต่ใช้เพียงแค่ 3 ฐาน คือ เสาฐานปี , เสาฐานเดือน , เสาฐานวันเกิด ( หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘ยื่อเหยิน’ หรือดิถี ยังไม่มีเสาฐานเวลา จึงยังไม่เรียกว่า ‘สี่เถียว โป๋ยยี่’ เพราะ ‘สี่เถียว’ คือเสาฐาน 4 ต้น คือ เสาฐานปี, เสาฐานเดือน, เสาฐานวัน,เสาฐานเวลา ‘โป๋ยยี่’ คืออักษรจีน 2 ตัว เสาฐาน 4 ต้นรวมเป็นอักษรจีน 8 ตัว ช่วงเวลา 3 พันปีก่อน ศาสตร์แห่งการพยากรณ์ดวงชะตามีแค่เสา 3 ฐาน อักษร 6 ตัว ต้นกำเนิดมาจาก ‘หลิวซื๋อเจี๋ยจือ’ ) ของหวังตี้ มาเป็นต้นแบบในการพยากรณ์ ดวงชะตา ต่อมาในสมัยราชวงศ์ถัง ( ประมาณ พ.ศ.  1200 จนถึง พ.ศ. 1300) ข้าราชกาลชั้นสูงในราชวงศ์ถัง นาม ‘หลี่ซีจุง’ ได้แต่งตำราการพยากรณ์ ดวงชะตา ชื่อว่าตำรา’ จื่อผิงจินช๋วน’ โดยใช้ปีเกิด,เดือนเกิด,วันเกิด, เวลาเกิด ของแต่ละคนมาตั้งเป็นเสา 4 ต้น คือ เสาปี,เสาเดือน,เสาวัน,เสาเวลา แต่ละเสามีอักษรจีน 2 ตัว เสา 4 ฐาน รวมมีอักษรจีน 4 ตัว ซึ่งเรียกกันต่อมาว่า ‘สี่เถียว โป๋ยยี่’ ใช้ในการพยากรณ์ดวงชะตาชีวิตของชาวจีนตั้งแต่นั้นมา

ศาสตร์แห่งการพยากรณ์ดวงชะตา ซึ่งต่อไปนี้ข้าพเจ้าจะขอเรียกสั้นๆ ว่า ‘ดวงจีน’ หรือ ‘สี่เถียว โป๋ยยี่ ‘
( ต่อจากนี้ไปหากพบอักษรจีน ข้าพเจ้าจะขอออกเสียงเป็นสำเนียงแต้จิ๋ว เพื่อสะดวกรวดเร็วในการเรียบเรียง ) อักษรจีนที่ใช้ตั้ง’ ดวงจีน’ หรือ ‘ สี่เถียว โป๋ยยี่’ มีอักษรจีนแค่ 22 ตัว เอง แค่นั้นจริง ๆ  ตือ อักษร 10 ตัวนี้คือราศีบนหรือ ภาษาจีนเรียก เทียนถัง อักษรอีก 12 ตัวคือ  (จือ)    (ทิ่ว)     (อิ๊ว)    (เบ้า)    (เซ้ง)    (จี่)    (โง่ว)    (บี่)    (ซิง)    (อิ่ง)    (สุก)    (ไห)    อักษรจีน 12 ตัวนี้คือ ราศีล่าง หรือภาษาจีนเรียก ตี่จี อักษรจีน 22 ตัวนี้ สมัยหวังตี้ ประมาณ 5 พันกว่าปีนั้น ได้นำมาผสมกัน เป็นอักษรจีน 60 คู่ ซึ่งกล่าวมาในตอนต้น  คือ ‘ หลิวซื่อเจี๋ยจือ’ แล้วนำมาเรียบเรียงเป็นปี, เป็นเดือน, เป็นวัน , เป็นเวลา ในการกำหนดว่าเป็นปีนั้นปีนี้เรียกแต่ละปี , แต่ละเดือนว่าปีอะไร เดือนอะไร ซึ่งเป็นต้นแบบปฏิทินจีน ในปัจจุบัน พอถึง ‘ หลี่ซีจง’ เป็นราชวงศ์ถัง ได้นำ ‘ หลิ่วซือเจี๋ยจือ’ หรือเรียกอีกนัยหนึ่งคือ’ ราศีบนล่างวัฏจักร 60 ปี เป็น 1 รอบ’  มาตั้งเป็น ‘ สี่เถียว โป๋ยยี่’ พยากรณ์ดวงชะตา โดยมีองศ์ประกอบอื่นๆ มารวมอยู่ในนั้น ตัวอย่างเช่น เสาฐานปี เสาฐานเดือน เสาฐานวัน เสาฐานเวลา เวลาเขียนออกมาในรูปแบบ’ ดวงจีน’ จะเขียนเป็นลักษณะเช่นนี้ คือ ฐานวันเรียกว่า ดิถี ของเจ้าดวงชะตาดวงนี้ โดยมีองค์ประกอบสำคัญอีกมากมาย อธิบายว่า อักษร 8 ตัว นี้ มีความหมายอย่างไร  เกิดเหตุอะไร มีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับเจ้าชะตาของดวงนี้ ถ้าหมอดูดวงจีนที่เก่ง สามารถพยากรณ์ออกมาว่าเจ้าชะตามีวาสนาอย่างไร ดำรงชีวิตอยู่เป็นอย่างไร ตั้งแต่เกิดจนถึงวัยชรา

ในสมัยต้นราชวงศ์ชิง ( ประมาณ พ.ศ. 2200 ) มีหมอดูดวงจีนได้เขียนบทความไว้ว่า หากนำ ราศีบนล่างวัฏจักร 60 ปี มาตั้งเป็นรูปแบบ สี่เถียว โป๋ยยี่ จะได้รูปแบบดวงชะตาประมาณ 1 ล้านกว่ารูปแบบ หากนำสถานที่เกิด , สิ่งแวดล้อมที่เจ้าชะตาเกิด , วงศ์ตระกูลของเจ้าชะตา, ทิศทางที่อยู่  จะสามารถวางรูปแบบดวงชะตาของมนุษย์ได้ถึง 12 ล้านรูปแบบ ของดวงชะตาชีวิต
ดวงจีนที่ใช้ในการพยากรณ์นั้น เขาเน้นหนักที่วันเกิดหรือ ‘ดิถี’ ของเจ้าชะตา ว่าเกิดวันไหน เป็นธาตุอะไร ธาตุในดวงจีนมีทั้งหมด 5 ธาตุ คือ ธาตุไม้ ธาตุไฟ ธาตุดิน ธาตุทอง ธาตุน้ำ  ในแต่ละธาตุนั้นๆ เหมือนกับวิชา ฮวงจุ้ย ซึ่งดูจากชัยภูมิ ธรรมชาติ และธาตุก็มี 5 ธาตุเหมือน ‘สี่เถียว โป๋ยยี่’ ซึ่งเป็นอีกศาสตร์ๆ หนึ่ง ที่แตกขยายมาจากโหราศาสตร์จีน ( ข้าพเจ้าจะนำมาเล่าในคราวหน้าหากมีโอกาส )

มีความเชื่อและยอมรับตามตำราดวงจีนว่า ดวงชะตาของเพศชายควรแข็งแรง หมายถึง ‘ดิถี’ วันเกิดของเจ้าชะตาเพศชายว่า เกิดในวันอะไร วันนั้นบอกถึงเป็นธาตุอะไร แข็งแรงหรือไม่ ถ้าหากธาตุแข็งแรงดี มีดาวปรับดี จังหวะของเสาชีวิตดี ก็จะมีแต่ความโชคดี ทำงานอะไรก็ประสบแต่ความสำเร็จ  พบแต่ผู้คนสนับสนุน  เข้าทำนองเป็นคนดวงเฮง  เปรียบเหมือนคำพังเพยของไทยที่ว่า แข่งราแข่งเรือแข่งได้ แต่แข่งวาสนากันไม่ได้ ส่วนดวงชะตาของเพศหญิง ควรอ่อนเล็กน้อย ห้ามแข็งแรงกินไป เพระคนจีนมีความเชื่อกันว่า ถ้าดวงชะตาเพศหญิงแข็งแรงเกินไป เป็นดวงข่มสามี  ต้องเหน็ดเหนื่อย ทำมาหากินเลี้ยงตนเอง ตามประเพณีจีนดวงผู้หญิงควรอ่อน มีสามาดวงดีแข็งแรง เป็นคนหาเลี้ยงภรรยา มีเด็กรับใช้ให้ภรรยาใช้สอย ตัวผู้หญิงที่ดีก็มีเวลาไปเลี้ยงลูก อบรมลูก หลานให้เป็นคนดี ฉลาด รู้จักทำมาหากิน ยามแก่เฒ่าลูกหลานจะได้ กลับมาดูแลเลี้ยงดู และเลี้ยงดูเจ้าชะตา ซึ่งเป็นบุญบารมีและวาสนา

 

About The Author